เสียงธรรมจากห้อง “เมตตาภิรมย์กรรมฐาน”
วันอาทิตย์ 18 พฤษภาคม 2568
เรื่อง สลายอวิชชาบรรเทาวาระกรรม
โดย อาจารย์ คณานันท์ ทวีโภค
กำหนดสติในความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน กล้ามเนื้อทุกส่วน ผ่อนคลายพร้อมกับความรู้สึกปล่อยวาง ความเกาะ ความห่วง ความยึด ผัสสะที่เชื่อมโยงกับกายขันธ์ห้าทั้งหลาย ผ่อนคลายปล่อยวางร่างกาย ยิ่งผ่อนคลาย ยิ่งปล่อยวาง จิตยิ่งรวมเข้าสู่สมาธิ สู่ความสงบได้ละเอียด ได้ลึก ได้เร็วขึ้น จิตแยกจากร่างกายขันธ์ห้า แยกรูปแยกนาม แยกกาย แยกจิต แยกอาทิสมานกายจากกายเนื้อ ปล่อยวางกาย ทิ้งกาย แล้วจดจ่อใช้สติกำหนดรู้อยู่กับความสงบ ยิ่งผ่อนคลาย ยิ่งว่างวางเบา ยิ่งผ่อนคลายจิตยิ่งสงบเย็น
เมื่อกำหนดรู้อยู่กับความสงบแล้ว เราใช้สติมากำหนดรู้ในลมหายใจ น้อมนึกให้เห็นว่าลมหายใจเป็นเหมือนกับแพรวไหม พลิ้วผ่านเข้าออกในกายของเรา จิตใช้สติกำหนดรู้ในลมหายใจตลอดทั้งสาย ตลอดทั้งกองลมนั้น ลมหายใจที่เหมือนกับแพรวไหม พลิ้วผ่านเข้าออกในกาย เบาละเอียด สงบ สติกำหนดติดตามดู ติดตามรู้ในลมหายใจตลอดสายนั้น ต่อเนื่องลื่นไหล สงบ อารมณ์จิตเบา อารมณ์จิตสงบ ลมหายใจรายละเอียดก็รู้ว่าละเอียด ลมหายใจสงบเบาก็รู้ว่าสงบเบา ลมหายใจยิ่งเบา ยิ่งสบาย สัมพันธ์กับอารมณ์จิต อารมณ์จิตก็ยิ่งละเอียด เบาสบายตามกระแสลมหายใจนั้นไปด้วย
ติดตามดู ติดตามรู้ รู้ลมหายใจ รู้อารมณ์ใจที่เป็นสุข สงบ เบาสบาย อารมณ์ใจยิ่งสบายสงบ อารมณ์จิตเรายิ่งห่างจากอกุศล เบา ละเอียด คืออารมณ์จิตของอุปจารสมาธิ อารมณ์จิตที่สงบสงัดจากนิวรณ์ทั้ง 5 ประการ อยู่กับลมหายใจสบายตลอดสาย สติเต็มรอบ รู้ในลมหายใจนั้น รู้ในอารมณ์ใจที่เบาสบายเป็นสุขนั่น จิตเข้าถึงความสงบ
พิจารณาว่าจิตเราเข้าถึงธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสในเบื้องต้นแห่งการฝึกจิต ที่ทรงตรัสไว้ว่า
ความสุขเสมอด้วยความสงบนั้นไม่มี
ความสุขจากความสงบ ความสุขจากสมาธิ ความสุขที่ไม่จำเป็นต้องแสวงหาไขว่คว้าดิ้นรน ความสุขที่สงบเย็นปราศจากความเร่าร้อน เข้ามาสงบที่ใจ เข้ามาสงบจากความรัก โลภ โกรธ หลง ทั้งปวง ลมหายใจสบาย
ทรงอารมณ์ ทรงสภาวะ ตั้งจิตอธิษฐานวสี ขอให้จิตข้าพเจ้าเข้าถึงอารมณ์จิตแห่งความสงบเบาในอานาปานสติ เข้าถึงฌาน 4 นานาปานสติ เอกัคคตารมณ์ อุเบกขาอารมณ์ได้ในทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ยืน เดิน นั่ง นอน หลับตา ลืมตา ทุกอิริยาบถ ก็ขอให้ทรงอารมณ์ ทรงสภาวธรรมนี้ได้เป็นปกติ
เมื่อสงบเย็น เบาสบายเป็นสุขแล้ว ต่อไปเราก็ยกกำลังใจขึ้น หยุดจิต หยุด หยุดความคิด หยุดการปรุงแต่ง นิ่ง หยุดเข้าถึงเอกัคคตารมณ์ เข้าถึงอุเบกขาอารมณ์ นิ่งหยุด
จุดที่หยุดของจิต ก็คือ อุเบกขารมณ์
เอกัคคตารมณ์ คือ จิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับการหยุดของจิต
กำหนดรู้ว่า เมื่อเราหยุดเข้าสู่ฌาน 4 ในอานาปานสติ เมื่อหยุดจิต จิตรวมเป็นหนึ่ง อธิษฐานก็อธิษฐานในตัวหยุด หยุดเป็นตัวสำเร็จ อธิษฐาน ณ จุดที่หยุด ขณะที่หยุดจิต หยุดอกุศล หยุดการปรุงแต่ง หยุดความวุ่นวาย หยุดความรัก โลภ โกรธ หลงทั้งปวง หยุด
เมื่อจิตทรงตัว เข้าใจ เห็นสภาวะแห่งสมาธิ ความสงบ ความตั้งมั่นชัดเจน เราก็เดินจิตต่อไปสู่สมถะที่สูงขึ้น จากอาณาปานสติก็เดินจิตขึ้นสู่ฌานในกสิณ จากจุดที่หยุด เรากำหนดจินตภาพ
จุด => ขยายกลายเป็นเส้นวงกลม 2 มิติ
จากเส้นวงกลม 2 มิติ ก็ปรับจาก 2 มิต => ให้เป็น 3 มิติ
คือกลายเป็นลูก กลายเป็นทรงกลม กลายเป็นดวงแก้ว ดวงแก้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น ใสขึ้น น้อมนึกตามไป
เมื่อกำหนดภาพนิมิตดวงแก้วขึ้นมาได้ ก็อธิษฐานจิต
เชื่อมภาพนิมิตแห่งกสิณเชื่อมโยงจิตใจ จิตเชื่อมโยงกสิณ กสิณเชื่อมโยงกับจิต
จิตคือกสิณ กสิณคือจิต
ภาพกสิณมีกำลังแห่งอภิญญาจิต มีความสว่างผ่องใสเพียงใด จิตของข้าพเจ้าก็มีความสว่าง มีความผ่องใส มีอภิญญาจิตสว่างเช่นนั้นเช่นกัน
จากนั้นกำหนด น้อมนึกต่อไปจากดวงแก้วใสสว่าง จิตเราค่อยๆ ปรับเปลี่ยนความละเอียด นึกให้เห็นเป็นภาพจิตของเราเป็นเพชรลูก มีประกายระยิบระยับ เพชรที่เจียระไน เปล่งประกายแสงสว่าง มีเส้นแสงรัศมีพุ่งออกมาโดยรอบ พร้อมกับพ้นจากอาณาเขตบริเวณของเส้นแสงรัศมีของจิต ก็ปรากฏสภาวะความเป็นทิพย์ คือบรรยากาศมีความพร่างพรายรายรอบด้วยสภาวะ เหมือนกับมีกากเพชรโปรยปรายระยิบระยับห้อมล้อมอยู่เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่ จิตของเราเปล่งประกาย จิตของเราเข้าถึงปฏิภาคนิมิต
กำหนดจิตให้สว่างผ่องใสอย่างยิ่ง ทรงอารมณ์ ทรงสภาวะ ยิ่งจิตเป็นเพชรประภัสสรมากเท่าไหร่ อารมณ์จิตเรายิ่งผ่องใส กำลังบุญมารวมตัว กำลังกุศลมารวมตัว บารมีทั้ง 30 ทัศมารวมตัว บุญมารวมตัวส่งผล ทรงอารมณ์ ทรงสภาวะ ประคับประคองฌานสมาบัติ จิตประภัสสร ความรู้ตื่นจากจิตอันประภัสสร
กำหนดว่าจิตเราสว่างเพียงใด ความมืดบอดแห่งอวิชา สิ่งที่เป็นอัปมงคล สิ่งที่เป็นอกุศล สิ่งที่เป็นอวิชาคุณไสย ก็สลายออกไปด้วยกำลังฌานสมาบัติ ที่เราปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ แสงสว่างบดบังความมืดฉันใด จิตใจมนุษย์ตื่นขึ้นสู่จิตอันประภัสสร ก็ทำลายล้างอวิชาทั้งปวง ให้สลายตัวไป รู้ตื่นขึ้นสู่จิตเดิมแท้อันเป็นประภัสสร อธิษฐานว่า กำลังกรรมฐานสลายล้างอวิชาคุณไสยทั้งปวง อันนี้ก็ถือว่าเป็นการแก้ เป็นการสลายแล้ว ใครที่ถูกของ โดนของ กำลังกรรมฐานที่เราฝึก ที่พาทำอยู่นี้ ก็ช่วยสลายออกไป
เมื่อทรงอารมณ์ ทรงสภาวะจิตที่ประภัสสร สว่างเป็นเพชรระยิบระยับ เราทรงอารมณ์ไว้ ใจยิ้ม จิตยิ้ม สว่างเป็นเพชรระยิบระยับ สว่างแล้วสว่างขึ้นอีก ใสแล้วใสขึ้นอีก ระยิบระยับขึ้นไปแล้วก็ระยิบระยับขึ้นไปอีก
“เคล็ดวิชาของการฝึกกสิณก็คือ การกลั่นจิตใสแล้ว ก็กำหนดให้ใสยิ่งขึ้นไปอีก สว่างแล้วก็กำหนดให้สว่างขึ้นไปอีก”
ทรงภาพ ทรงสภาวะ จิตเรายิ้มเบิกบานเป็นสุข แล้วก็ให้เป็นสุขเบิกบานยิ่งขึ้นไปอีก ทรงอารมณ์ ทรงสภาวะเช่นนี้ไว้
กำหนดว่าจิตเราเปล่งประกายแสงสว่างเป็นรัศมีจิตออกไปโดยรอบ จากนั้นกำหนดจิตต่อไปว่ารัศมีที่แผ่ไปโดยรอบของจิตเรานั้น ก็คือรัศมีแสงสว่าง เป็นคลื่น เป็นกำลังของบุญ เรากำหนดอธิษฐานว่ารัศมีคลื่นจิตที่แผ่ออก สว่างออกจากจิตดวงนี้ ขอจงเป็นกระแสแห่งเมตตา คลื่นแห่งเมตตา รัศมีจิตเป็นคลื่นแห่งเมตตาอันไม่มีประมาณ ยิ่งสว่าง กระแสเมตตายิ่งเปล่งประกายออกจากจิตของเราอย่างไม่มีประมาณ สว่างไปทั้งสามแดนโลกธาตุ สว่างไปยังภพของมนุษย์และสัตว์ที่มีขันธ์ห้า กายเนื้อทั่วทั้งจักรวาลอย่างไร้ขอบเขตไม่มีประมาณ แผ่เมตตารัศมีของจิตสว่างออกไปยังภพแห่งสุคติภูมิ อันได้แก่ภพของรุกขเทวดา ภูมิเทวดา อากาศเทวดา พรหม อรูปพรหมทั้งปวง แผ่เมตตาไปไตรภูมิเปิดสามแดนโลกธาตุลงไปยังภพอันเป็นทุคติภพ ภพอันเสวยวิบากกรรม อันได้แก่ ภพของโอปปาติกะ สัมภเวสี เปรตอสุรกาย สัตว์นรกในทุกขุม จิตของเราแผ่เมตตาอย่างไม่มีประมาณ สว่างผ่องใส รัศมีแห่งความเมตตา เมตตาที่เปิดสามแดนโลกธาตุแผ่สว่างนี้ สลายล้างกำลังแห่งอวิชาทั้งปวง บาปอกุศลทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมตตาอันไม่มีประมาณนั้นสลายล้างความโหดร้ายทารุณ จิตใจที่มีความเบียดเบียน ความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาตพยาบาทจองเวรทั้งปวง จากจิตของเราเอง
กระแสเมตตาสลายล้างแรงพยาบาทจองเวรทั้งปวงในจิตของเรา สลายล้างความเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เรามีต่อจิตดวงอื่น อโหสิกรรม เมตตามหาอภัยทานต่อมวลหมู่สรรพสัตว์ที่เคยเบียดเบียนกัน กลั่นแกล้งทำร้ายทำลายชีวิต หรือทำเอาอวิชาคุณไสยใส่เราก็ตาม กระแสบุญสลายล้างด้วยกำลังแห่งเมตตา ให้อภัยอโหสิกรรม ตัดความพยาบาทจองเวร ปล่อยวางจากจิต ปลดพันธนาการแห่งความอาฆาตพยาบาทที่ผูกร่างจิตของเราไว้กับความทุกข์ ความโกรธแค้น ความเกลียดชัง สลายล้างออกไป ให้มหาอภัยทาน ให้ทานบารมีอันเป็นทานสูงสุดที่กระทำได้ยาก
ปล่อยวาง เมตตา อภัย ปล่อยวาง เมตตา อภัย ปล่อยวาง เมตตา
อโหสิกรรม อโหสิกรรม อโหสิกรรม
หมดเวรหมดกรรม เมื่ออโหสิกรรมปรากฏ หมดวิบากกรรม เมื่ออโหสิกรรมปรากฏ
แผ่เมตตาสลายล้าง สิ่งใดที่เป็นอวิชาคุณไสย สลายล้างไปจนหมด เมื่อจิตเราสะอาดบริสุทธิ์ จิตเราปล่อยวาง จิตเรามีเมตตาพรหมวิหารสี่เต็มบริบูรณ์ ศีลห้าจากใจที่ปราศจากการเบียดเบียนก็ปรากฏขึ้น เป็นศีลของพระอริยเจ้า เป็นศีลของพระโพธิสัตว์ คือศีลจากเมตตา ไม่อยากเบียดเบียน ไม่อยากฆ่าใคร ไม่อยากเบียดเบียน ไม่อยากประทุษร้ายใคร ไม่อยากเบียดเบียน ไม่อยากล่วงเกินผิดในพรหมจรรย์กับบุคคลอื่น เมื่อมีเมตตาพรหมวิหาร 4 ก็ไม่อยากรักขโมยเบียดเบียนทรัพย์ของผู้อื่น เมื่อมีเมตตาก็ปราศจากความคิดที่จะไปเบียดเบียน หลอกลวงฉ้อฉล โกหกกล่าวเท็จ เมื่อมีจิตเมตตาพรหมวิหารสี่ ก็ปราศจากความปรารถนาที่จะทำลายสุขภาพร่างกายของเราเอง ด้วยอบายมุข ด้วยเหล้าสุรา การพนัน ยาเสพติดทั้งปวง
ศีลของเราบริสุทธิ์ จิตของเราบริสุทธิ์ จิตเรามีเมตตา จิตเรามีอภัยโทษเต็มเปี่ยม จิตเรามีความผ่องใสในเมตตา สว่าง มีกำลัง
กำหนดอธิษฐานว่าจิตของเราวางไว้ดีแล้ว ควรแก่การ เราตั้งใจว่าจิตอันผ่องใส มีเมตตาพรหมวิหารสี่ เป็นเพชร เป็นจิตประภัสสร เราขอน้อมถวายกรรมฐาน คือดวงจิตอันประภัสสรนี้ ถวายเป็นพุทธบูชาต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
จากนั้นเปล่งประกายจิตของเราให้สว่างผ่องใสที่สุด เป็นสุขที่สุด จากนั้นน้อมนึกอาราธนาขอบารมีพระพุทธองค์ทรงปรากฏอยู่กลางจิต กลางใจของข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ในจิตที่เป็นเพชรประกายพรึกนั้น รัศมีจิตความสว่าง ความแพรวพราวยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น จิตเกิดกำลังมากขึ้น กำลังแห่งพุทธานุภาพเสด็จมาประทับสถิตย์อยู่ในจิตของเรา สิ่งใดที่เป็นอกุศลในจิต ในกาย ในวาจา จงสลายออกไปด้วยกำลังของพุทธานุภาพ องค์พระอยู่ในกาย อยู่ในจิตของเรา ตอนนี้สว่าง ทรงสภาวะ ทรงภาพนิมิต ที่จิตเป็นประภัสสรเป็นเพชร มีองค์พระอยู่ภายใน
เมื่อจิตเป็นองค์พระอยู่ภายในเรียบร้อยแล้ว เราก็กำหนดจิตนะ อธิษฐานจิตขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ ขอให้จิตดวงนี้พุ่งไปเป็นแสงสว่าง ขึ้นไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าพระพุทธเจ้า คือสมเด็จองค์ปฐม พร้อมด้วยพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ บนพระนิพพาน จิตของเราพุ่งเป็นแสงสว่างขึ้นไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าองค์พระ
จากนั้นอธิษฐานขอให้แสงสว่างคือจิตที่เป็นดวงแก้วสว่างนั้น จงปรากฏสภาวะเป็นการแห่งพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพาน เห็นกายทิพย์ของเราอยู่ในสภาวะที่มีเครื่องทรง เครื่องประดับที่เป็นแก้วใสสว่าง จากนั้นกำหนดกราบพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จองค์ปัจจุบัน ทุกท่าน ทุกๆ พระองค์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าทั้งองค์ปัจจุบันก็ดี พระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าในอดีตกาล ผ่านล่วงมาแล้วก็ดี เราน้อมจิตกราบทุกท่านทุกๆ พระองค์
เมื่อกราบแล้วก็กำหนดจิตอธิษฐานนะ ว่าหากแม้นบนโลกมนุษย์นี้ ยังมีบุคคลที่เป็นสมมุติสงฆ์มาอยู่ในเพศแห่งบรรพชิต มีอลัชชีที่แฝงบวชมาก็ดี แต่จิตข้าพเจ้านี้มีความมั่นคงในไตรสรณคมน์ คือคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ บุคคลมากมายอยู่ในพระพุทธศาสนา แต่ไม่เห็น ไม่ได้พบ ไม่ได้กราบไหว้ ไม่ได้ทำบุญ ไม่ได้กราบสักการะไม่ได้ฟังธรรมจากพระสุปฏิปันโน หรือพระอริยเจ้า หรือพระอรหันต์ แต่ข้าพเจ้า ณ บัดนี้ ขณะจิตนี้ ข้าพเจ้าอยู่บนพระนิพพาน ข้าพเจ้าได้กราบ ได้พบ ได้สัมผัสกับพระอรหันต์ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าเต็มไปหมด ขอให้จิตข้าพเจ้านี้ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป พบเจอแต่พระสุปฏิปันโน คือพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พบเจอแต่พระอริยเจ้า พบเจอแต่พระโพธิสัตว์ พบเจอแต่ครูบาอาจารย์ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ นับตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ
กำหนดจิตนะ คนอื่นเขาไม่ได้พบ แต่เราพบพระอรหันต์เต็มไปหมด ใจเราวางอารมณ์ใจให้รู้สึกมีความยินดี มีความอิ่มเอม ธรรมะ การปฏิบัติในเขตพระพุทธศาสนา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการสัมผัสด้วยใจ สัมผัสด้วยจิต สัมผัสด้วยใจ สำคัญที่สุดนะ เราพบเจอเรากราบพระ กราบครูบาอาจารย์ กราบโดยอาการ แต่ถ้าจิตเราไม่ได้สัมผัสถึงคุณธรรมความดี เรากราบไม่ได้กราบด้วยความนอบน้อมอ่อนโยนเคารพ จิตเราก็ไม่ได้สัมผัสถึงคุณความดี ไม่ได้สัมผัสถึงจิตของท่าน
ตอนนี้ก็ให้เราใช้กายทิพย์ คือกายพระวิสุทธิ กราบให้ถึงจิตของพระพุทธเจ้า ใจเรากำหนดน้อมนึกนะ ว่าเรารักเคารพท่านพระองค์ใด จะเป็นสมเด็จองค์ปฐม จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จะเป็นหลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ท่านเป็นพระอริยเจ้าพระอรหันต์ เราตั้งจิตว่ากายทิพย์เรากราบถึงจิตท่านอย่างแท้จริง เมื่อกราบถึงจิตท่าน กราบด้วยความนอบน้อม กราบด้วยความเคารพ กระแสพุทธานุภาพ กำลังบารมีของครูบาอาจารย์ กำลังพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ ก็สามารถที่จะสงเคราะห์ ช่วยเหลือ คุ้มครองปกป้องเราได้อย่างเต็มกำลัง กราบให้ถึงจิตของพระพุทธองคนะ ตอนนี้แต่ละคน ทรงอารมณ์ ทรงสภาวะ ว่าเราตอนนี้กำลังอยู่เบื้องหน้าพระพุทธเจ้า กำลังอยู่เบื้องหน้าครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระอรหันต์
จากนั้นเรากำหนดจิตต่อไปนะ กำหนดจิตอธิษฐานว่า การปฏิบัติธรรม การเจริญพระกรรมฐานของข้าพเจ้านี้ ขอให้ยังประโยชน์ทั้งในการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน เพื่อเข้าสู่กระแสแห่งพระโลกุตรธรรมเจ้า เข้าสู่กระแสโลกุตรธรรม และก็ขอให้การปฏิบัติธรรมของข้าพเจ้านี้ มีกำลังแห่งพระกรรมฐาน กำลังแห่งจิตตานุภาพ ที่สามารถยังประโยชน์ได้ในทางโลก ยังประโยชน์ในการปกปักษ์รักษา คุ้มครอง ยังประโยชน์กำลังพระกรรมฐานในการบำบัดเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ โรคาพยาธิทั้งปวง กำลังพระกรรมฐานที่เกิดกำลัง เกิดคุณประโยชน์ในทางโลกเป็นเมตตามหาลาภ เป็นเมตตามหาลาโภ เป็นเมตตามหานิยม ขอให้ผลทั้งทางโลก ทางธรรมนี้ พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ เมตตาสงเคราะห์ มีพุทธานุญาต ธรรมานุญาต สังฆานุญาต ต่อข้าพเจ้าเป็นพิเศษโดยตรงด้วยเทอญ ขอให้ท่านโมทนาสาธุการด้วยเทอญ
นะ ตั้งใจนะ ขอให้นำไปใช้ได้
คราวนี้ก็กำหนดจิต เห็นกายพระวิสุทธิเทพเราสว่าง อธิษฐานขอให้เห็นกายพระวิสุทธิเทพเรา นั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์ดอกบัวแก้ว อยู่ในท่านั่งสมาธินะ จากนั้นกำหนดจิตต่อไป วันนี้สิ่งที่เราจะฝึก สิ่งที่เราจะเรียนเป็นพิเศษ ก็เป็นเรื่องที่สืบเนื่องจากเมื่อวานต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เป็นเรื่องของเหตุการณ์ เป็นเรื่องของวาระ ดังที่ได้เคยเตือนมาว่า ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่เขาเก็บทั้งคนดีคนชั่ว ในขณะเดียวกันคนชั่วก็ปล่อยของ ปล่อยวิชาคุณไสยออกมาค่อนข้างเยอะนะ อย่างเมื่อวาน อาจารย์ก็ได้มีโอกาสช่วยเหลือคุณแม่ของลูกศิษย์ท่านหนึ่งในกลุ่มพวกเรา
สำหรับวันนี้ก็บังเอิญมีญาติธรรมอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้รู้มาก่อน บอกว่าหลานสาวถูกของ ถูกคุณไสยอยู่ อยู่ทางใต้ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าอยู่ที่พัทลุง ถูกคุณไสย ตอนนี้เราก็ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรนะ เราก็ฝึกกรรมฐานไปพร้อมกันแล้วก็ช่วยกันพร้อมกันนะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องตกใจ สำหรับถ้าบุคคลที่เป็นญาติได้อยู่ในห้องกรรมฐาน ได้มาฝึกวันนี้ด้วย ก็กำหนดน้อมจิต แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็อธิษฐานนำไฟล์เสียงนี้ ไปเปิดให้หลานสาวฟังซ้ำอีกที แต่เดี๋ยวก็จะทำการอาราธนาบารมีพระมาสงเคราะห์นะ
คราวนี้เรากำหนดจิตนะ แต่ละคน ทุกคนตอนนี้อธิษฐานจิตขอให้เห็นกายทิพย์เพื่อนๆ ทั้ง 69 ท่านอยู่บนพระนิพพานในสภาวะกายแห่งพระวิสุทธิเทพพร้อมกัน กำหนดจิตประนมมือ กายพระวิสุทธิเทพประนมมือนะ พนมมือไว้ อธิษฐานจิตให้กายทิพย์ของเราสว่าง กายพระวิสุทธิเทพของเราสว่างด้วยบุญ น้อมนึกรำลึกถึงบุญกุศล สังฆทาน มหาสังฆทานที่เราร่วมสร้าง ร่วมบำเพ็ญมาทุกเดือน ถวายเป็นสังฆทานใหญ่ ถวายเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ถวายด้วยกำลังจิตสูงสุด คือใช้กำลังพระกรรมฐาน ใช้กายทิพย์ ใช้ภาคทิพย์ในการถวายมหาทาน
ดังนั้นบุญก็มีมากกว่าอานิสงส์ธรรมดาปกติ บุญที่ร่วมสร้างพระพุทธรูปหลายๆ องค์ที่ผ่านมา จะองค์เล็ก องค์ใหญ่ หรือการสร้างพระพุทธรูปที่พิเศษด้วยกำลังใจสูงยิ่ง คืออธิษฐานจิต ยกจิตขึ้นมาอธิษฐานบนพระนิพพาน บุญทั้งหลายเรามีแล้ว บุญแห่งพระกรรมฐานจากการเจริญเมตตาอันไม่มีประมาณเรามีสมบูรณ์พร้อมแล้ว ฝึกมามากแล้ว ฝึกทุกครั้ง ฝึกทุกสัปดาห์ ฝึกเป็นกำลัง เป็นแสงสว่าง จนกระทั่งกายทิพย์ จิตตานุภาพของเราแต่ละบุคคลมีรัศมีกาย มีกระแสบุญ มีความสว่างของกายทิพย์มากมายกว่าบุคคลทั่วไป และด้วยเนื้อแห่งบุญที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึง ได้บรรลุถึง ได้สำเร็จประโยชน์ต่อตนแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอตั้งจิตส่งผลเป็นกำลังแห่งบุญฤทธิ์ อันอยู่สูงกว่าอิทธิฤทธิ์ เหนือกว่าฤทธิ์อภิญญาอันเป็นโลกียวิสัย และสิ่งสำคัญที่เป็นยอดมงกุฎ เป็นกำลังสูงสุดก็คือ กำลังของพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ
ขณะนี้กายทิพย์ของเราอยู่กับพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ บนพระนิพพาน โดยมีสมเด็จองค์ปฐมทรงเป็นประธาน ไม่มีภพอื่นภูมิใดที่จะสูง ที่จะล้ำเลิศ ที่จะประเสริฐกว่าพระพุทธองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออาราธนาบารมี พุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ ธรรมานุภาพอันไม่มีประมาณ สังฆานุภาพอันไม่มีประมาณ ขออาราธนารวมลงเป็นกระแสบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพาน พุ่งตรงลงไปยังบุคคลทั้งหลายที่ประสบเหตุถูกอวิชาคุณไสย ที่ขอความอนุเคราะห์ในการช่วยเหลือเกื้อกูล ให้พ้น ให้หลุดจากอวิชา หลุดพ้นจากวิบากกรรม หลุดพ้นจากบาปเคราะห์ครั้งนี้ด้วยกำลังแห่งเมตตาไม่มีประมาณ
เราน้อมนึกนะ แสงสว่างพุ่งจากมือที่เราทำประนมไหว้ ของกายพระวิสุทธิเทพของเราแต่ละคนนะ มีกระแสแห่งพุทธานุภาพ ลงมายังกลางศีรษะของกายพระวิสุทธิเทพของเรา พุทธานุภาพลงมา แสงสว่างของพุทธานุภาพผ่านกายทิพย์เราพุงออกไปทางฝ่ามือ ทางมือที่ประนมพุ่งลงไปยังโลกมนุษย์ ยังบุคคลที่เขาร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตอนนี้ คุณแม่ของลูกศิษย์ก็ขอให้มีกำลังบุญส่งย้ำไปอีก สลายล้างไปอีก หลานสาวของคนที่ร้องขอให้ช่วย แก้ของ แก้อวิชาคุณไสยรวมทั้งญาติธรรมสายบุญที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติ แต่ทำหน้าที่ในปฏิปทาสาธารณประโยชน์ แต่ถูกคุณไสย ถูกกลั่นแกล้ง ถูกกระทำอยู่ ก็ขอน้อมบุญกุศลนี้ส่งไป และหากในหมู่คณะของบุคคลที่เจริญพระกรรมฐานขณะนี้ มีคนรู้จัก มีญาติธรรมมีกัลยาณมิตรที่ถูกอวิชชาคุณไสยอยู่ ก็อธิษฐานจิตให้ส่งผล มีผลกระแสจิตของทุกคนทุกท่าน กระแสจิตของพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์บนพระนิพพาน ส่งถึงบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น
จากนั้นกำหนดนะ น้อมนึกนะ เป็นแสงสว่างไป จากนั้นอธิษฐานนะ อาราธนาบารมีเห็นองค์พระอยู่เหนือศีรษะของบุคคลทั้งหลายเหล่านั้นนะ ที่เราต้องการสงเคราะห์ เห็นองค์พระ อาราธนาให้เกิดองค์พระ 3 ฐานที่กายเนื้อ กายหยาบของบุคคลนั้นนะ คือบนศีรษะ ในศรีษะ ในกาย อธิษฐานจิตเมื่อมีองค์พระอยู่ภายในกายแล้ว ก็ประดุจมีน้ำบริสุทธิ์เต็มอยู่ในภาชนะคือกายนั้น ดังนั้นจิตอันเป็นอวิชชาคุณไสย จิตที่เป็นผี เป็นวิญญาณ เป็นปอบเปรต เป็นจิตอาฆาต เป็นจิตของเจ้ากรรมนายเวร เป็นจิตที่มีความแค้นพยาบาท ก็ไม่อาจทานทนอยู่ได้ ขอจงอโหสิกรรมไป ขอจงออกไปจากกายจากขันธ์ 5 นี้ องค์พระสว่างจากภายในสลาย กระแสบุญ กระแสเมตตา
กำหนดจิตนะ กระแสเมตตา อโหสิกรรม เมตตา อโหสิกรรม เมตตาอภัยทาน บุญกุศลทั้งหลายดับล้างอวิชาทั้งปวง บุญฤทธิ์สว่างผ่องใสสลายล้างอวิชาทั้งปวง บุญฤทธิ์สว่างผ่องใสสลายล้างความโกรธแค้น ความอาฆาตพยาบาททั้งปวง แสงสว่างแห่งกุศล แสงสว่างแห่งกระแสแห่งโลกุตรธรรม กระแสบุญจากพระนิพพานของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ ส่องสว่างสลายล้างสิ่งที่เป็นมลทิน สิ่งที่เป็นบาปเคราะห์สิ่ งที่เป็นอวิชา สิ่งที่เป็นคุณไสย สลายไป ดับล้างไป ด้วยอำนาจแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และบุญฤทธิ์ทั้งปวง
กำหนดจิตนะ อธิษฐานจิตนะ ภาวนา “หมดเวรหมดกรรม อโหสิกรรมเพื่อหมดเวรหมดกรรม อโหสิกรรมเพื่อหมดเวรหมดกรรม อโหสิกรรมเพื่อหมดเวรหมดกรรม เปลี่ยนภพ ปรับภูมิ ด้วยกำลังแห่งบุญฤทธิ์ ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายจงเป็นดวงจิตพลิกกลับสู่จิตอันเป็นสัมมาทิฏฐิกุศล เลิกแล้วอโหสิกรรมปล่อยวาง บุญฤทธิ์สว่าง ปรับภพ ปรับภูมิ บุญฤทธิ์ บุญอันเกิดขึ้นจากมหาสังฆทาน คือแสงสว่างแห่งรัศมีกายจากอานิสงส์การถวายพระพุทธรูปปิดทองคำ ผ้าไตรจีวร อันก่อเกิดอานิสงส์แผ่นผ้าทิพย์ แห่งเครื่องทรง กายอันเป็นทิพย์ สังฆทานบริโภคอาหาร อันเป็นอานิสงส์ก่อให้เกิดอาหารทิพย์ วิหารทานอานิสงส์อันก่อให้เกิดวิมานอันเป็นทิพย์ บุญกุศลบุญฤทธิ์แผ่สว่าง เมตตา ปรับภพภูมิ ดวงจิตทั้งปวง จากความมืด จากความบอด จากความเร้าร้อน จากความทุกข์ทรมาน ปลดปล่อยหมดออก หลุดออก ตัดออกไปด้วยอำนาจแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ กำลังแห่งเมตตาฌานอันไม่มีประมาณ กำลังแห่งบุญฤทธิ์ กำลังแห่งแสงสว่างแห่งบุญ สลายล้าง หาย ดับ
จากนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานนะ ขอให้เห็นภาพของดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายที่เขาปรับภพ ปรับภูมิหลุดออกไป เปลี่ยนภพ เปลี่ยนภูมิออกไป ขอให้เรากำหนดรู้ จากนั้นก็อธิษฐาน ว่าอานิสงส์ผลบุญแห่งการที่เราสงเคราะห์เกื้อกูล บุคคลที่เขาทุกข์ประสบความทุกข์อยู่ กระแสบุญที่เป็นเกาะแก้ว คุ้มครองป้องกัน ช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น ขอบุญทั้งหลายอานิสงส์ทั้งหลาย จงสะท้อนกลับคืนเป็นผลให้ข้าพเจ้า ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ญาติธรรม บุคคลรอบกายของเรา รอบตัวของเรา รอดพ้น ปลอดภัยจากบรรดาภัยพิบัติทั้งหลาย ปลอดภัยจากภัยที่เป็นมนต์ดำ อวิชาคุณไสยทั้งหลาย มีกำลังแห่งพุทธานุภาพ เป็นเกาะแก้วคุ้มครอง กาย วาจา ใจ
จากนั้นกำหนดเห็นกายพระวิสุทธิเทพของเรา สว่างผ่องใสนะ สว่างอย่างยิ่ง กำหนดจิตว่าโลกมันก็มีการเบียดเบียนกัน มีการประทุษร้ายกัน ตราบที่ยังเกิดในโลก เหตุแห่งการที่เราเกิดบ่อยมากเท่าไหร่ เราก็พบกับความทุกข์ ความขัดเคือง ความคับแค้นใจมากเพียงนั้น พบเจอกับการกระทบกระทั่งจิตใจ พบเจอการเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบมากขึ้นเพียงนั้น เมื่อพิจารณาแล้ว ก็คือดับการเกิด ดับอวิชาทั้งปวง ดับคุณไสยทั้งหลาย ไม่เท่าดับอวิชาแห่งการหลงเกิด หลงเวียนว่ายตายเกิด ดับอวิชชา คือ ปัญญาดวงตาเห็นธรรม เห็นคุณแห่งพระนิพพาน เห็นคุณแห่งการไม่เกิด ไม่กลับมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก็ไม่ถูกเบียดเบียน ไม่ถูกกลั่นแกล้ง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ถูกการคดโกง ไม่ถูกประหัตประหาร ไม่ถูกวาระกรรม ผลของกรรมเข้ามาส่งผล ไม่ถูกเจ้ากรรมนายเวรคอยอาฆาตแค้น จิตเราพิจารณายิ่งเห็นคุณแห่งพระนิพพาน พิจารณาตัดชาติภพ ตัดอวิชาตัวสุดท้ายในสังโยชน์ทั้ง 10 คือความโง่ที่ทำให้เราหลงเกิด หลงเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
เมื่อจิตของเราทรงอารมณ์ ทรงสภาวะในอารมณ์ชั่วขณะนี้ อารมณ์จิตเราก็ประดุจเป็นอารมณ์แห่งอรหันตผลชั่วคราว อารมณ์จิตเราทรงอารมณ์แนบอยู่กับพระนิพพาน มีความพึงพอใจในพระนิพพาน มีความรักในพระนิพพาน จิต กายพระวิสุทธิเทพเราสว่างผ่องใส หลายๆ คน เมื่อวานนี้ก็ได้ไปทำพิธีบวงสรวงให้กับประเทศชาติ ก็เราก็อธิษฐานนะ ส่งผลย้อนหลังให้กำลังกรรมฐาน กำลังที่เราทรงในกำลังแห่งพระนิพพาน คือกำลังแห่งอรหันตผลนี้ ส่งผลในพิธีกรรมทั้งปวงนับตั้งแต่พิธีรับส่งพระราหู พระพฤหัสบดี แล้วก็จะรับส่งพระเสาร์ อธิษฐานว่าขอให้สิ่งใดอันเป็นมงคล สิ่งใดอันเป็นพรที่ประเสริฐ ขอพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ เทพเทวา พระเสวยอายุทั้งหลาย เมตตาสงเคราะห์เกื้อกูลข้าพเจ้าบุคคลที่อยู่ในธรรม อยู่ในกุศล ในความดี ให้นับแต่นี้พลิกดวงชะตาชีวิต มีแต่ขึ้นไม่มีลง มีแต่ชีวิตที่รุ่งเรืองขึ้น เป็นสุขขึ้น บุญส่งผล เป็นช่วงเวลาที่คนดีขึ้นสู่ความรุ่งเรือง เปิดบุญ เปิดบารมี เปิดมหาโภคทรัพย์ ขอจงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์
จากนั้นกำหนดและให้เห็นกายพระวิสุทธิเทพเรา ตอนนี้สว่างอย่างยิ่ง เจิดจ้าอย่างยิ่ง อธิษฐาน ประนมมืออธิษฐานนะ เปิดบารมี เปิดบุญ ขอให้กายเนื้อบนโลกนี้ จงเป็นประดุจพระสังข์ถอดรูป จากที่เคยพรางกายไว้ ขอบุญบารมีทั้งหลายจงมารอ จงมาปรากฏ จงเปิดขึ้น ถอดรูป ถอดกาย ถอดชีวิต เปิดบารมีให้ปรากฏ ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้น ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนรวม
อธิษฐานนะ เห็นกายทิพย์เรายิ่งสว่าง อธิษฐาน น้อมมาดูกายเนื้อบนโลกมนุษย์นะ ให้เห็นว่ากายในเราเปิด เป็นทองคำ เป็นกายแก้ว เป็นกายที่มีแสงสว่าง ให้บุญทั้งหลายรวมตัว บุญทั้งหลายจงปรากฏ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จากนั้นเราก็กำหนดจิตนะ ได้เวลาเราก็กราบลาพระพุทธเจ้า กราบลาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า กราบลาพระอรหันต์ทุกๆ พระองค์บนพระนิพพาน น้อมจิตกราบลาด้วยความนอบน้อม บุญจงส่งผล เมื่อกราบลาแล้วก็พุ่งจิตอาทิสมานกายของเราลงมายังกายเนื้อบนโลกมนุษย์ แล้วอธิษฐานขอกระแสบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพาน ชำระล้างฟอกธาตุขันธ์ จำไว้ว่าทุกครั้งที่เราจบจากการเจริญพระกรรมฐาน เราก็น้อมเอาบุญพระกรรมฐาน น้อมกระแสจากพระนิพพาน ลงมาชำระล้างฟอกธาตุขันธ์ ซึ่งผลก็คือ
- เพื่อฟอกธาตุขันธ์จากโรคภัยไข้เจ็บอาพาธโรคร้ายทั้งปวง
- ฟอก เพื่อสลายล้างอวิชาคุณไสย สลายล้างอกุศลจิต สลายล้างสิ่งที่เป็นความเฝือ ความผิดเพี้ยนจากการเจริญพระกรรมฐาน ไม่ให้ญาณของเรามันเฝือ มันเป็นวิปัสสนูปกิเลสไป
- ก็คือฟอกธาตุขันธ์ อันนี้เป็นเรื่องที่ครูบาอาจารย์ท่านฝากมา อันนี้พระสงฆ์ มีพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านฝากมาว่าพยายามนะ โยมที่ปฏิบัติเพื่อมรรคผลพระนิพพาน ตายแล้วก็พยายามอธิษฐานให้กระดูกเป็นพระธาตุ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันธรรมะในการปฏิบัติ พอลูกหลานก็ดี บุคคลอื่นที่เขาปฏิบัติธรรมก็ดี เห็นว่ากระดูกของเราเป็นพระธาตุเวลาที่ตายไป เขาก็มีกำลังใจว่าโยมหนอ ก็ปฏิบัติ ก็สามารถที่จะเกิดผลเช่นนี้ได้ พอที่จะคาดคะเนอนุมาน คติที่ไปของบุคคลนั้นได้ว่าไปดี ดังนั้นคนก็หันมาปฏิบัติเพิ่มขึ้น อันนี้ทำเพื่อเป็นประโยชน์ฝากไว้กับคนรุ่นหลัง
พอกำหนดรู้แล้ว ก็อธิษฐานจิตขอกระแสบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพาน กรรมฐานธาตุธรรมฟอกธาตุขันธ์ เป็นลำแสงลงมาคลุมกายเนื้อ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง กลายเป็นแก้วใส โครงกระดูกทั่วร่างกายกลายเป็นแก้วใส เส้นเอ็น หลอดเลือดทั่วร่างกายสะอาด ล้างชำระกลายเป็นแก้วใส อาการ 32 อวัยวะภายในทั่วร่างกายกลายเป็นแก้วใส เนื้อทุกส่วน เซลล์ทุกเซลล์กลายเป็นแก้วใส สลายล้างเซลล์มะเร็ง เซลล์เนื้องอก เซลล์ที่ผิดปกติ โรคาพญาธิสภาพทั้งหลายในร่างกายจงสลายไป โรคภัยไข้เจ็บจงสลายไป ด้วยกำลังแห่งธาตุธรรม ชำระล้างฟอกธาตุขันธ์ กำลังบุญจากพระนิพพานชำระล้างฟอกธาตุขันธ์
จากนั้นอธิษฐานนะ ขอกำลังบุญส่งผลเปิดสายบุญ สายทรัพย์ สายสมบัติ จงปรากฏเป็นมนุษย์สมบัติ อันจับต้องได้ในชาติปัจจุบัน บุญส่งผลทันใจ บุญใหญ่ส่งผลก่อน ขอบุญจงปรากฏ ขอบุญนี้จงสำเร็จ อธิษฐานนะ น้อมนึกให้เห็นทรัพย์ทั้งหลาย มหาโภคทรัพย์ทั้งหลายหลั่งไหลลงมา ให้เราได้ใช้ดูแลตนเอง ดูแลครอบครัว ได้ใช้เพื่อมอบ เพื่อถวายทาน ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สืบต่อไป เป็นประโยชน์ต่อโลก เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป
จากนั้นนะ ก็ให้เราทุกคนอธิษฐาน จิตโมทนาสาธุกับกัลยาณมิตรทุกคน ขอให้ทุกคนหมดเวรหมดกรรม หมดทุกข์หมดโศก หมดโรคหมดภัย มีแต่ความสุขมี แต่ความเจริญ โมทนาสาธุกับทุกคน
แล้วก็หายใจเข้าช้าๆ ลึกยาว ภาวนา พุท ออก โธ
ครั้งที่ 2 หายใจเข้า ธัม หายใจออก โม
ครั้งที่ 3 สัง หายใจออกโฆ
ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุ้มครอง กาย วาจา จิตของข้าพเจ้า 24 ชั่วโมง ทั้งยามหลับและยามตื่น ตลอดอายุขัย ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้
จากนั้นจึงค่อยๆ ถอนจิตช้าๆ ขึ้นจากสมาธิ ด้วยจิตอันประณีต เป็นสุข แย้มยิ้ม เบิกบาน
สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนาบุญกับทุกคน วันนี้มีเรื่องที่จะต้องแจ้งให้ทราบหลายหลายเรื่องเหมือนกัน
เรื่องที่ 1 ก็คือ การจัดสร้างพระพุทธรูปพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานไว้ที่วัดพุทธโมกข์ ล่าสุดนี้พระอาจารย์หนุนท่านก็เมตตามอบทองคำ จากการที่ญาติโยมถวายทองคำกับพระอาจารย์ ท่านก็มอบให้ทางอาจารย์มาใช้ในการหล่อพระพุทธรูปองค์นี้ แล้วก็แจ้งให้ทราบในเรื่องของกำหนดการในการหล่อพระว่า จะหล่อในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งเป็นวันเสาร์ เป็นวันเสาร์๕ ที่โรงหล่อพุทธปฐม โรงหล่อองค์ปฐมที่จังหวัดอุทัยธานี ใกล้วัดท่าซุง แล้วก็สำหรับใครที่จะไปร่วมหล่อ ก็สามารถเรียนเชิญได้ ก็มีโรงทานมีของที่ระลึก ซึ่งขอกระซิบบอกว่าพลาดไม่ได้ แล้วท่านใดที่จะมีตั้งจิตจะรวมกองบุญในการถวายทองคำ ในการร่วมหล่อองค์พระ ขอให้นำไปนะ จะได้อธิษฐานจิต เดี๋ยวจะพานำอธิษฐานจิตในการหย่อนทองคำลงเบ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นก็ขอให้ยังไม่ต้องส่งทองคำมาทางนี้ ให้นำไปในวันหล่อพระด้วยกัน หรือมอบให้ตัวแทนหรือเพื่อนกัลยาณมิตรก็เลยอันนี้เป็นตัวแทนไปนะอันนี้เรื่องเรื่องทองคำนี้
ต่อมาก็จะมีเรื่องที่สอง ก็คือโครงการที่เราร่วมกันดำเนินการแล้ว กำลังจัดสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร เป็นยันต์เกราะเพชรเป็นผ้ายันต์ขนาดพกพา แล้วก็สติ๊กเกอร์ยันต์เกราะเพชร เพื่อที่จะแจกทหาร 4 ภาค ก็คือตอนนี้มันมีศึกมาประชิดทั้งทางพม่า ทางลาว เขมร แล้วก็ทางภาคใต้ 4 ทิศ รุมเราหมดผ้า ยันต์นี้จัดทำขึ้นจำนวนแสนผืน แล้วก็จะมีการรวบรวมเอาแผ่นธงพิชัยสงคราม ซึ่งในหมู่คณะแล้วก็อาจารย์เคยร่วมจัดทำไว้ มีอยู่จำนวนหนึ่ง จะมอบให้ทหาร ก็จะเน้นมอบให้กับทหารหาญที่ฐานทัพที่เป็นแนวหน้า คือบริเวณที่ตรึงกำลัง ยันกับข้าศึกโดยตรงแล้วก็มีสติ๊กเกอร์ที่สำหรับทหารก็จะติดกับเสื้อเกราะก็ดี หรือว่าปืนหรือสิ่งใดที่เขารู้สึกสะดวก หรือติดที่กระจกรถเวลาออกลาดตระเวนให้ปลอดภัย ซึ่งตรงนี้ก็จัดทำเป็นสติ๊กเกอร์อีกจำนวน 2,000 แผ่น อันนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่เป็นสิ่งที่เราจะต้องร่วมจิตร่วมใจกัน เป็นหน้าที่ของคนในชาติที่ต้องส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่แนว ดังนั้นจุดนี้ก็เปิดให้เราร่วมบุญกันตามกำลัง ตามความศรัทธา ซึ่งช่วยกันบอกบุญให้ออกไปกว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะว่าตรงนี้ก็ถือว่า คนที่ได้ร่วมบุญก็ได้ร่วมแรงใจในการน้อมอธิษฐานเพื่อกำลังของแรงอธิษฐานเนี้ย ก็จะได้มาเป็นกำลังจิตคุ้มครองชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผืนแผ่นดิน ซึ่งแรงอธิษฐาน เป็นเหตุแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหตุที่ทำให้วัตถุมงคลต่างๆ เกิดผล เกิดพลานุภาพ และสำหรับผ้ายันต์นี้ ก็จะได้อันเชิญไปร่วมในพิธีเสาร์ 5 ยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุนในวันที่ 30 เป็นวันเสาร์ที่ 30 เดือนพฤษภาคม แล้วก็ได้กราบเรียนพระอาจารย์หนุน ขอท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ ซึ่งท่านก็เต็มใจอย่างยิ่ง ดังนั้นตรงนี้ยังไงก็มีความศักดิ์สิทธิ์ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะได้นำมาแจกให้กับผู้ที่มาเจริญพระกรรมฐาน เน้นแจกเฉพาะคนที่มาเจริญพระกรรมฐาน ไม่มีแจกเผื่อนะ อันนี้ก็ขอที่จะสงวนไว้จำนวนตามความเหมาะสมอีกทีหนึ่ง ว่าจะแจกจำนวนเท่าไหร่ อะไรเท่าไหร่นะ อันนี้ก็คือแจ้งให้ทราบ ซึ่งการร่วมบุญเดี๋ยวจะลงบัญชีไว้ให้ทั้งในส่วนของ Facebook ในกลุ่ม แล้วก็ในกลุ่มไลน์ อันนี้ก็แจ้งให้ทราบ
สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนาบุญกับทุกคน ช่วงนี้ขออีกเรื่องหนึ่งคือพยายามอาราธนาบารมีพระตลอดเวลา ดื่มน้ำก็ดี อธิษฐานให้เป็นน้ำมนต์ ข้าวอาหารก่อนจะกินก็อธิษฐานเสกไว้ ขอบารมีพระ ทรงภาพพระสามฐานทุกวันตั้งแต่เช้า ขอบารมีพระคุณตลอดเวลาที่รู้สึกว่ามีความรู้สึกหวาด รู้สึกเอะใจว่าไม่ปลอดภัย ขอบารมีพระคุ้มไว้ก่อน เดินทางไปไหน มาไหน ก็ขอบารมีพระให้ท่านประทับอยู่หน้าฝากระโปรง บนหลังคา แล้วก็ด้านหลังรถ คลุมไปด้วยตลอดเวลาทุกครั้งอันนี้ก็เพื่อที่ว่ากำลังพุทธานุภาพจะได้คุ้มครองเราทุกคนได้
วันนี้ก็ขอโมทนาบุญกับทุกคน พบกันใหม่สัปดาห์หน้า
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
ถอดเสียงและเรียบเรียงโดย : คุณสิริญาณี แลบัว